รีวิวหนัง Rampage (2018) – แรมเพจ ใหญ่ชนยักษ์

หากพูดถึงหนังที่สร้างจากเกมอาร์เคดยุคคลาสสิก หลายคนอาจนึกถึงความมันแบบไม่ต้องคิดมาก แต่ Rampage (2018) กลับทำได้มากกว่านั้น เพราะนอกจากจะมีสัตว์กลายพันธุ์ขนาดมหึมามาอาละวาดกลางเมืองแล้ว ยังแฝงความสัมพันธ์ระหว่าง “คนกับสัตว์” ไว้อย่างน่าประหลาดใจ และนั่นทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่เป็นความบันเทิงที่มีหัวใจเต้นอยู่ข้างใน

เรื่องราวเริ่มจากเหตุการณ์บนสถานีอวกาศที่กำลังทดลองเชื้อพันธุกรรมชื่อ “CRISPR” — เทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตได้ แต่เมื่อการทดลองผิดพลาด แคปซูลที่บรรจุเชื้อร่วงลงมายังโลก หนึ่งในนั้นตกใกล้สวนสัตว์ในซานดิเอโก ที่ซึ่ง เดวิส โอโคเย่ (Dwayne “The Rock” Johnson) นักไพรเมตวิทยาผู้รักสัตว์มากกว่ามนุษย์บางคน ดูแลลิงกอริลลาชื่อ “จอร์จ”

ไม่นานหลังจากนั้น จอร์จเริ่มโตขึ้นผิดปกติ ก้าวร้าว และแสดงอาการเจ็บปวดราวกับมีบางสิ่งกำลังกลืนกินเขาจากภายใน เดวิสตกใจและพยายามหาทางช่วยเพื่อนรักของเขา แต่ความจริงกลับโหดร้ายกว่านั้นมาก เพราะมีสิ่งมีชีวิตอีกสองตัวในส่วนอื่นของประเทศที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน — หมาป่ายักษ์ชื่อ “ราล์ฟ” และจระเข้ยักษ์ที่ใหญ่จนกินเรือได้ในคำเดียว

รัฐบาลเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ขณะที่บริษัทที่สร้างเชื้อไวรัส (นำโดยแฝดหญิงชายผู้ทะเยอทะยาน) กลับพยายามใช้คลื่นเสียงเรียกสัตว์ยักษ์ทั้งสามมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองชิคาโก เพื่อปิดปากพยานและเก็บงานวิจัยคืนมา ผลที่ได้คือ “สงครามกลางเมือง” ระหว่างอสูรยักษ์ที่ไม่รู้จักความยับยั้งชั่งใจ กับกองทัพที่แทบไม่เหลือทางหยุดยั้ง — จนเหลือเพียงเดวิสและนักวิทยาศาสตร์สาว เคท (Naomie Harris) ที่ต้องหาทางรักษาจอร์จและหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ก่อนที่เมืองทั้งเมืองจะราบเป็นหน้ากลอง

หนังพาเราเข้าสู่ความอลังการตั้งแต่ต้นจนจบ ความยิ่งใหญ่ของ CGI ทำให้ “Rampage” กลายเป็นหนึ่งในหนังสัตว์ประหลาดที่สมจริงที่สุดในยุคนั้น ฉากการสู้กันของจอร์จกับราล์ฟและจระเข้ยักษ์ตอนท้ายคือไฮไลต์ที่แทบหายใจไม่ทั่วท้อง ความพิเศษคือการที่ผู้กำกับ Brad Peyton (จาก San Andreas) ใช้การเคลื่อนกล้องเร็วแต่ไม่มั่ว ภาพชัดทุกระเบิด ทุกเศษซาก และยังคงใส่ใจอารมณ์ระหว่างคนกับสัตว์ได้อย่างไม่หลุดโทน

สิ่งที่ทำให้หนังต่างจากหนังสัตว์ยักษ์ทั่วไปคือ “ความผูกพัน” ของเดวิสกับจอร์จ — แม้จะมีฉากต่อสู้สุดมัน แต่หัวใจของเรื่องคือมิตรภาพและความเข้าใจระหว่างสองสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ The Rock เล่นได้อบอุ่นและน่าเชื่อ เขาไม่ใช่แค่ฮีโร่กล้ามโต แต่เป็นคนที่เชื่อว่าทุกชีวิตมีค่าพอจะปกป้อง ส่วน Naomie Harris ก็เติมพลังให้บทนักวิทยาศาสตร์ผู้มีอดีตเศร้าได้สมดุลดี

แม้โครงเรื่องจะคาดเดาได้บ้าง และบทพูดบางช่วงฟังดูสูตรสำเร็จแบบหนังบล็อกบัสเตอร์ฮอลลีวูด แต่ Rampage ก็มีสิ่งที่หนังแนวนี้ต้องมีครบ — ฉากสู้สุดอลัง ความพังทลายแบบจัดเต็ม และการเล่นอารมณ์ที่ทำให้คนดูกลับมารัก “อสูร” มากกว่ามนุษย์บางคนในเรื่องเสียอีก ฉากสุดท้ายที่จอร์จหันมายิ้มและแกล้งเล่นกับเดวิสหลังช่วยโลกไว้ได้ เป็นภาพที่ทำให้หนังจบด้วยรอยยิ้มแทนเสียงระเบิด

โดยรวม Rampage คือหนังที่ไม่ต้องคิดเยอะ แต่อัดแน่นไปด้วยความบันเทิงและพลังงานบวกของ The Rock ที่ดูแล้วอดยิ้มไม่ได้ เป็นหนังที่สร้างจากเกมได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และทำให้ผู้ชมเข้าใจว่า “หนังสัตว์ประหลาด” ไม่จำเป็นต้องไร้หัวใจเสมอไป

คะแนน IMDb: 6.1 / 10 (ดูรายละเอียด)
คะแนนผู้เขียน: 7.5 / 10 – สนุก มันส์ ภาพสวย และอบอุ่นอย่างคาดไม่ถึง

Author: luzyx

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *