
ถ้าพูดถึงหนังครอบครัวสุดคลาสสิกยุค 90 ที่ทั้งอบอุ่นและฮาตลอดทาง หนึ่งในชื่อที่ยังอยู่ในใจใครหลายคนคงหนีไม่พ้น Baby’s Day Out (1994) หรือชื่อไทยว่า “จ้ำม่ำเจ๊าะแจ๊ะ ให้เมืองยิ้ม” ผลงานกำกับของ Patrick Read Johnson และอำนวยการสร้างโดย John Hughes เจ้าของตำนานอย่าง Home Alone และ Beethoven ที่ครั้งนี้เปลี่ยนจาก “เด็กซนในบ้าน” มาเป็น “ทารกน้อยผู้หนีเที่ยวกลางเมืองใหญ่” อย่างน่ารักเกินคาด

เรื่องราวเริ่มขึ้นในคฤหาสน์ของครอบครัวมหาเศรษฐีที่มีลูกชายคนเดียวชื่อ เบบี้บิงค์ (รับบทโดยฝาแฝด Adam และ Jacob Worton) ทารกวัยขวบเศษที่กำลังจะถ่ายรูปลงนิตยสารเด็กชื่อดัง แต่ใครจะคิดว่าในวันถ่ายภาพนั้นเอง กลุ่มโจรสามคนปลอมตัวเป็นช่างภาพเข้ามาลักพาตัวหนูน้อยไปหวังเรียกค่าไถ่! ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผน เพราะเบบี้บิงค์ผู้ไร้เดียงสาเกิดหลุดออกจากมือพวกโจร แล้วเริ่มต้น “การผจญภัย” ครั้งยิ่งใหญ่กลางมหานครชิคาโก ที่ทั้งคนทั้งเมืองต้องตกตะลึงกับความบังเอิญที่เกินจะเชื่อ
เบบี้บิงค์ใช้หนังสือนิทานเล่มโปรด “Baby’s Day Out” เป็นแรงบันดาลใจและเหมือนมีชะตาพาให้ไปตามจุดต่าง ๆ ในหนังสือ — ทั้งสวนสัตว์ สวนสาธารณะ รถเมล์ ไปจนถึงตึกระฟ้าที่สูงลิ่ว — โดยที่พวกโจรสามคน (Joe Pantoliano, Brian Haley, Joe Mantegna) ต้องวิ่งวุ่นตามจับเด็กคนเดียวทั่วเมืองอย่างทุลักทุเล กลายเป็นฉากฮาแบบสไตล์สแลปสติกที่เด็กดูขำ ผู้ใหญ่ดูเพลินแบบไม่เบื่อ
ความอัจฉริยะของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ “จังหวะ” และ “ความบริสุทธิ์ของตัวละคร” — ไม่มีบทพูดซับซ้อน ไม่มีการใช้เทคนิคเหนือจริง มีเพียงสถานการณ์ต่อเนื่องที่ดูเป็นไปไม่ได้แต่กลับลงตัวอย่างน่าทึ่ง เบบี้บิงค์คลานผ่านถนน เข้าไปในสวนสัตว์ ปีนตึก ก่อให้เกิดความวุ่นวายใหญ่หลวง ขณะที่พวกโจรก็รับบทเป็นตัวตลกที่พ่ายให้กับความซื่อของเด็กทุกครั้ง หนังไม่ต้องใช้มุขคำพูดเลย แต่ขำด้วย “สถานการณ์” และ “สีหน้า” ของตัวละครล้วนๆ
แม้จะดูเหมือนหนังเด็ก แต่หากมองลึกลงไป มันคือหนังที่สะท้อน “ความอ่อนโยนของชีวิตในเมือง” ได้ดีมาก เมื่อตัวเอกคือทารกที่ไม่รู้กลัว ไม่รู้โกรธ แต่กลับเดินผ่านผู้คนหลากหลาย ทั้งคนไร้บ้าน คนขับรถ แม่ลูกในสวน หรือพยาบาลที่ไม่รู้ว่ากำลังเจอเหตุการณ์สำคัญ หนังจึงกลายเป็นบทกวีเล็ก ๆ ว่าด้วย “ความดี” ที่ยังคงมีอยู่ในทุกมุมของเมืองใหญ่ หากเรายังมองด้วยสายตาใสซื่อแบบเด็กคนหนึ่ง
และต้องยกความดีให้สามนักแสดงโจร — โดยเฉพาะ Joe Mantegna ที่เล่นได้ทั้งตลกและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน ฉากที่เขาถูกเบบี้บิงค์จับหน้าลงกองถ่านร้อน ๆ กลายเป็นตำนานมุกฮาของหนังยุค 90 ที่ยังติดตาอยู่ถึงทุกวันนี้ ส่วนฝาแฝด Worton ก็รับบท “เบบี้บิงค์” ได้เกินคาด ทั้งความไร้เดียงสาและจังหวะน่ารักที่กล้องจับได้ทุกอิริยาบถแบบพอดีเป๊ะ
ในช่วงท้าย หนังปิดเรื่องอย่างอบอุ่น เมื่อเบบี้บิงค์กลับมาถึงบ้านโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกลายเป็น “ตำนานข่าวดังทั่วเมือง” พ่อแม่ที่แทบขาดใจได้อุ้มลูกกลับสู่อ้อมกอดอีกครั้ง และคนดูทั่วโลกก็ได้ยิ้มพร้อมน้ำตา เพราะรู้ดีว่าบางครั้ง “ความโชคดี” ของเด็ก ก็เกิดจากความบริสุทธิ์ที่ผู้ใหญ่ลืมไปนานแล้ว
Baby’s Day Out ไม่ใช่หนังตลกที่มีมุกจัดจ้าน แต่มันคือความสุขขาวสะอาดในรูปแบบที่หายากในยุคนี้ ดูได้ทุกวัย ไม่มีคำหยาบ ไม่มีฉากรุนแรง มีแต่เสียงหัวเราะแบบอบอุ่นหัวใจ ใครที่โตมาพร้อมยุควิดีโอเทปคงจำได้ดีว่ามันเป็นหนังที่เปิดวนได้ไม่เบื่อ — และวันนี้มันยังคงทำหน้าที่ “ให้เมืองยิ้ม” ได้เหมือนเดิม
คะแนน IMDb: 6.2 / 10 (ดูรายละเอียด)
คะแนนผู้เขียน: 8.5 / 10 – สำหรับความเรียบง่ายที่งดงาม และพลังความสุขที่ไม่มีวันเก่า
